Han So Hee ยังคงร้อนแรงสม่ำเสมอ บินลัดฟ้าไปเฉิดฉายบนพรมแดงงาน British Fashion Awards 2022

Han So Hee

ฮันโซฮี เธอเผยตัวในกรุงลอนดอนพร้อมสถานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Charlotte Tillsbury
พร้อมยืนถ่ายภาพประกบเจ้าของแบรนด์อยู่ตลอด

หลังจากสร้างปรากฏการณ์ “โซฮีฟีเวอร์” ในช่วงที่มาร่วมงานแบรนด์ Omega ณ ประเทศไทย

ต้องบอกว่าฮันโซฮีได้รับความสนใจจากแฟนคลับทั้งยังไทยแล้วก็ต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ
เอาเข้าจริงเธอได้รับการจับตามองตั้งแต่โลดแล่น ณ กรุงปารีสแฟชั่นวีกแล้วด้วย สม่ำเสมอมาจนถึงช่วงปลายปีเรียกว่าเธอคือซูเปอร์สตาร์จากดินแดนกิมจิ
ที่มีแฟนคลับรอติดตามผลงานมากที่สุดคนหนึ่งในช่วงปลายปี แล้วก็การที่เธอบินลัดฟ้าไปงานประกาศรางวัล British Fashion Awards 2022
ก็สร้างโมเมนต์แฟชั่นพรมแดงที่สะกดตาทุกคนอีกรอบ

เธอบินออกจากสนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. 2022 ที่ผ่านมา ก่อนจะเผยตัว ณ กรุงลอนดอน
กับงานประกาศรางวัลสุดยิ่งใหญ่ในโลกแฟชั่นในวันที่ 6 ธ.ค. 2022 โดยนักแสดงสาววัย 28 ปี เฉิดฉายบนพรมแดงด้วยลุคเดรสเกาะอกจับระบายสีเขียว
มาพร้อมแอ็กเซสเซอรี่ทั้งยังนาฬิกาแล้วก็ตุ้มหู ลุคโดยรวมบางทีอาจไม่ได้หวือหวาเวอร์วังมากนัก
แต่เมื่อกลิ่นอายความมีเสน่ห์ผสมผสานกับความเรียบง่ายแล้วก็การเลือกสีที่ตัดกับพรมแดงได้พอดิบพอดีทำให้ฮันโซฮีกลายเป็นดาวเด่นที่สื่อแฟชั่นแล้วก็บันเทิงทั่วโลกไม่พูดไม่ได้

British Fashion Awards

การปรากฏตัวในกรุงลอนดอนครั้งนี้ ฮันโซฮี

มาในฐานะแอมบาสเดอร์ของแบรนด์บิวตี้อย่าง Charlotte Tillsbury เพราะฉะนั้นก็เลยไม่น่าแปลกใจที่บางทีอาจมองเห็นเธอในลุคพรมแดงที่เรียบโก้ แล้วก็เน้นความโดดเด่นไปในเรื่องของความสวยงามของเมกอัพ
ซึ่งสิ่งที่แฟนคลับฮันโซฮีปลาบปลื้มใจอย่างมากคือการได้มองเห็นเธอโลดแล่นอยู่บนพรมแดงงานสำคัญระดับโลก พร้อมทั้งถ่ายภาพร่วมกับเหล่าเซเลบริตี้ดังจากทั่วโลก
มากไปกว่านั้นเธอยังเป็นสาวสวยที่ยืนถ่ายภาพในตำแหน่งร่วมกับเจ้าของแบรนด์อยู่ตลอดด้วย นับว่าเป็นโมเมนต์สำคัญที่ทำให้ทุกคนมีความคิดเห็นว่าเธอได้รับความสนใจจากเจ้าของแบรนด์แล้วก็ก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่นบนพรมแดงครั้งนี้อย่างแท้จริง

British Fashion Awards 2022

ส่อง 5 ผลงาน ฮันโซฮี ( Han So-Hee ) ออนนี่ซุปตาร์สาวสวยแห่งประเทศเกาหลีที่ไม่ควรพลาด

1.) 100 Days My Prince รัก 100 วันของฉันและองค์ชาย (2018)
มาเริ่มกันที่การแสดงเรื่องแรกกันเลย นั่นก็คือการแสดงซีรีส์แนวย้อนยุคที่สนุกมาก ๆ ในเรื่อง “100 Days My Prince รัก 100 วันของฉันและองค์ชาย” นั่นเอง
โดยในเรื่องนี้สาวฮันโซฮีได้แสดงเป็น “พระชายาคิมโซฮเย” เป็นลูกสาวของเสนาบดีฝ่ายซ้าย ที่คุณได้แอบตั้งท้องกับลูกน้องของพ่อของเธอ!? เป็นคาแรคเตอร์ที่ดูเป็นคนเก็บกด
โดยบังคับอยู่ตลอด ซึ่งดูไปต้องแอบสงสารไป ซึ่งสาวฮันโซฮีก็แสดงออกมาได้ดีมาก ตีบทแบบแตกเป็นแตก! ทำให้คนที่ได้รับชมรู้สึกร่วมไปกับการแสดงนี้ อินมากแสดงอินเนอร์ออกมาได้แบบถึงใจมาก
รวมถึงเราถูกใจลุคแล้วก็แฟชั่นในเรื่องของฮันโซฮีมาก ๆ ดูหวานสง่าทุกลุคเลยละ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ดูแล้วเพลินตามากแม่ โดยในเรื่อง 100 Days My Prince รัก 100 วันของฉันและองค์ชายก็นับได้ว่าเป็นการแสดงแนวย้อนยุคครั้งแรกของสาวฮันโซฮีเธอเลยละค่ะ แต่บอกเลยว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ เต็ม 10 ไม่หัก แถมให้เพิ่มไปเล้ย อวยขนาดนี้แล้วต้องตามไปดูกันแล้ว

2.) The World of the Married หลังภาพแห่งความสุข (2020)
ตามมาต่อกับผลงานเรื่องที่สองของสาวฮันโซฮี ต้องบอกเลยว่าเป็นซีรีส์ที่แซ่บเผ็ด 10 เม็ดไปเลย! นั่นเป็นซีรีส์เรื่อง “The World of the Married หลังภาพแห่งความสุข”
ซีรีส์ที่เวลานี้กระแสแรงพูดถึงกันทั่วบ้านทั้งเมืองนั่นเองละค่ะ โดยสาวฮันโซฮีรับบทเป็น “ยอดาคยอ”
เป็นบทบาทของภรรยาน้อยของอีแทโอ มีคาแรคเตอร์ข้างนอกดูหวาน ๆ เงียบเรียบร้อย แต่ภายในนี่บอกเลยว่าร้ายไม่ใช่ย่อย แสดงออกมาได้สุด ฉากดราม่า ฉากร้าย ฉากเลิฟซีน
บอกเลยว่าอินเนอร์อินใจใส่มาแบบไม่ยั้ง! ถือว่าในบทบาทของยอดาคยอในซีรีส์เรื่อง The World of the Married หลังภาพแห่งความสุข เป็นหนึ่งบทบาทที่ออกจะท้าทายมาก เป็นตัวละครที่มีแง่คิดมีมิติให้คนดูได้คิดตาม แต่สาวฮันโซฮีก็ตีบทนี้จนกระทั่งแตกกระจุยไปเลย 10/10 ไม่หัก!

3.) Nevertheless รักนี้ห้ามไม่ได้ (2021)
ตามมาด้วยการแสดงเรื่องต่อมา ที่ต้องบอกเลยว่าฟินจิกจิกหมอนแล้วก็เป็นกระแสโด่งดังทั่วบ้านทั้งเมืองอย่างซีรีส์แนวรักโรแมนติกสุดฟิน
เรื่อง “Nevertheless รักนี้ห้ามไม่ได้” ที่เธอแสดงคู่กับหนุ่มซงคัง นั่นเองค่า~ โดยในเรื่องนี้สาวฮันโซฮีแสดงเป็น “ยูนาบี” เธอเป็นสาวสวยนักศึกษาศิลปกรรม
โดยเธอต้องการออกเดตแต่เธอนั้นอดีตไม่ค่อยจะดีเกี่ยวกับความรัก เป็นคนที่จริงจังกับทุก ๆ เรื่อง ซึ่งบอกเลยว่าในบทบาทของยูนาบีที่สาวฮันโซฮีแสดงนั้นคือดีต่อใจมาก ๆ เธอแสดงออกมาได้ดีมาก
มีความชัดเจน คาแรคเตอร์คือชัดมาก ไม่ว่าฉากไหนซีนใดคือปังมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากเลิฟซีนคู่กับหนุ่มซงคังคือต้องบอกเลยว่างื้อออโคตรฟิน!
เป็นการแสดงอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้สาวฮันโซฮีดังเป็นพลุแตกไปเล้ย!

4.) My Name (2021)
ตามมากับผลงานต่อมาของสาวฮันโซฮีนั่นก็คือซีรีส์เรื่อง “My Name” ทาง Netflix
ซึ่งเป็นแนวอาชญากรรม ดราม่าแอคชั่นที่บอกเลยว่าโด่งดังแล้วก็กระแสดีมาก ๆ โดยในซีรีส์เรื่อง My Name สาวฮันโซฮี แสดงเป็น “ยุนจีอู หรือ โอฮเยจิน”
เป็นคาแรคเตอร์ของตำรวจสาวสวยแผนกอาชญากรรม ที่มีนิสัยถึก ทน ลุย! เป็นคนที่เงียบ ๆ เดาใจหรือสิ่งที่เธอคิดไม่ค่อยได้ ซึ่งแน่นอนว่าระดับสาวฮันโซฮีนั้นก็แสดงออกมาได้แบบดีมากกกก
คาแรคเตอร์มีความชัดเจน อินเนอร์ออกมาทางสีหน้าท่าทาง แววตาได้แบบถึงพริกถึงขิง แถมในฉากต่อสู้แอคชั่น Movement คือโคตรสุด
แล้วก็ในเรื่องนี้ฮันโซฮีเธอก็มาในลุคผมสั้นสวยเปรี้ยวแซ่บมาก คือดีคือปัง ใครต้องการเห็นฮันโซฮีแสดงแนวแอคชั่นห้ามพลาดเด็ดขาดเลยนะ

5.) Soundtrack #1 (2022)
เดินทางมาถึงการแสดงเรื่องสุดท้าย ท้ายสุดของสาวสวยฮันโซฮีของเรากัน นั่นก็คือซีรีส์แนวแอบรักโรแมนติกสุดฟินอย่าง “Soundtrack #1”
มี Mood & Tone แล้วก็พล็อตเรื่องที่ดีงามมาก ๆ โดยในซีรีส์เรื่อง Soundtrack #1 ฮันโซฮีรับบทเป็น “อีอึนซู”
ซึ่งเป็นสาวสวยนักแต่งเพลง ที่มีคาแรคเตอร์ที่เป็นคนเก่งอารมณ์ดี ร่าเริง ชอบดูแลเทคแคร์ รวมถึงเป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับชีวิตแล้วก็เรื่องราวของความมาก ๆ
ซึ่งสาวฮันโซฮีแสดงบทบาทนี้ออกมาได้ดี คาแรคเตอร์มีความฟิตติ้งกับบทบาท มีความธรรมชาติ ทำให้คนที่ได้ดู คิดว่าเธอเป็นตัวของอีอึนซูแบบจริง ๆ อินมากแม่!
แล้วก็ใด ๆ ก็คือสาวฮันโซฮีในบทบาทของอีอึนซูมีลุคแล้วก็แฟชั่นที่สวยหวานเข้ากับเธอมาก ๆ เลย

ฮันโซฮี

ก็จบลงไปแล้วนะคะสำหรับ ส่อง 5 ผลงานสุดปังของ ฮันโซฮี ที่ไม่ควรพลาด
ต้องบอกเลยว่าสาวฮันโซฮีคนนี้นั้น เป็นอีกหนึ่งซุปตาร์นักแสดงมืออาชีพที่ไม่ว่าเธอจะรับบทไหน แสดงซีนใดก็คือปั๊วะมาก
แสดงออกมาได้ดีจนกระทั่งน่าประทับใจแล้วก็ขออวยให้เธอแบบแรง ๆ ทั้งยังยังเป็นสาวสวยมากเสน่ห์ที่มีคาแรคเตอร์ที่น่ารักน่าสนใจไม่ไหว!